6 สัญญานอันตราย โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis)

#เสียงเข่าลั่นกร๊อบแกร๊บเวลาเดิน #เดินแล้วเสียวแปร๊บขึ้นมา โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) ไม่ใช่คนสูงอายุ ก็เป็นได้!! แม้แต่หนุ่มสาววัยกลางคนก็สามารถเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้เหมือนกันลองเช็คสัญญาณอันตรายเหล่านี้ดู❗

สวัสดีครับวันนี้หมออยากพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritisอย่างที่บอกครับว่าไม่ใช่แค่คนแก่ที่เป็นเท่านั้น จากประสบการณ์ของหมอเองก็ได้พบเจอคนใกล้ตัวเป็นโรคนี้เหมือนกัน สำหรับฉบับนี้หมอจะเล่าก่อนว่ามีสัญญานอะไรบ้างที่ดูแล้วจะเข้าเกณฑ์ของการเป็นโรคนี้ และหลังจากที่อ่านบทความนี้จบแล้วหากคุณมีอาการตรงกับข้อดังกล่าวหลายข้อ เมื่อคุณปล่อยทิ้งไว้นานอาการข้อเข่าเสื่อม อาจจะรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นเดินไม่ได้เพื่อชะลอความเสื่อมให้ช้าลง และได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี รวมทั้งสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักกายภาพบำบัดครับ

1. มีน้ำหนักตัวมาก

เมื่อคุณอายุ 40 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัวมาก (ค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 25) ร่วมกับมีอาการปวดข้อเข่าอยู่ตลอดเวลา ปวดมากขึ้นเมื่อมีการใช้งาน เช่น นั่งคุกเข่า นั่งยองๆ หรือไม่สามารถงอข้อเข่าเพื่อสวมใส่ถุงเท้า รองเท้าได้ แสดงว่าคุณมีอาการข้อเข่าเสื่อมรุนแรงมากแล้ว

2. มีเสียงดังก๊อบแกร๊บที่เข่าขณะเคลื่อนไหว

โดยปกติแล้วผิวข้อกระดูกทั้งสองชิ้นจะมีหมอนรองกระดูกรองอยู่ ทำหน้าที่รับนํ้าหนัก กระจายแรง ป้องกันไม่ให้ผิวกระดูกชนกัน และช่วยให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น เมื่อเราอายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกเสื่อมสลายไป ทำให้ผิวกระดูกต้นขา (femur) และกระดูกหน้าแข้ง (tibia) เสียดสีกันจนเกิดเสียงดังกร๊อบแกร๊บนั่นเอง

3. มีอาการข้อเข่าฝืดแข็ง

ในภาวะปกติภายในข้อเข่าเราจะมีนํ้าหล่อเลี้ยงข้อเข่า (synovial fluid) ทำหน้าที่คล้ายกับนํ้ามันหล่อลื่น ซึ่งช่วยให้ข้อเข่าเคลื่อนไหวได้ราบรื่น เมื่อเราอายุมากขึ้น นํ้าหล่อเลี้ยงข้อเข่าจะผลิตออกมาได้ลดน้อยลงจนทำให้หมอนรองกระดูกได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมและเกิดการเสียดสีของผิวกระดูกตามมา หากต้องการให้นํ้าหล่อเลี้ยงข้ออยู่ในปริมาณปกติมีอยู่ 2 วิธีหลัก คือ
3.1 ทานยาที่ช่วยให้ร่างกายผลิตนํ้าหล่อเลี้ยงข้อ หรือฉีดยาน้ำหล่อเลี้ยงข้อเข่าเทียมเข้าไปแทนที่
3.2 การออกกำลังกายอย่างสมําเสมอ เพื่อให้มีการกระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงข้อเข่า

4. มีอาการปวดเสียวภายในข้อเข่าเวลาเดิน

อาการดังกล่าวทำให้ไม่สามารถเดินได้ตามปกติ และต้องเดินโยกตัว ซึ่งเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก ดังนี้

4.1 เกิดจากกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อเข่ามีความตึงตัวและเกร็งค้างไว้จนเกิดเป็นผังผืดรอบข้อเข่า จนทำให้มีอาการปวดตื้อๆ เป็นวงกว้างๆ รอบข้อเข่า
สาเหตุดังกล่าวสามารถรักษาโดยใช้การประคบร้อนเพื่อให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งคลายตัว หรือการนวดเพื่อสลายผังผืดรอบข้อเข่าโดยนักกายภาพบำบัด
4.2 เกิดจากผิวข้อของกระดูกบริเวณข้อเข่าเสียดสีกันจนสึกถึงขั้นผิวข้อหายไปจนหมด ซึ่งลักษณะนี้จะคล้ายกับความหนาของยางล้อรถยนต์ที่สึกหายไป เมื่อกระดูกเสียดสีกันไปเรื่อยๆ จะมีการซ่อมแซมตัวเองขึ้นมา เกิดกระดูกงอก (spur) ขึ้นมารอบๆ ผิวข้อแล้วไปทิ่มแทงเนื้อเยื่อรอบๆ เข่าได้ ทำให้เกิดอาการปวด มักเป็นตอนเหยียดหรืองอเข่าซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานๆ

5. รู้สึกว่าขาไม่มีแรง เข่าล้า เมื่อยง่าย เดินได้ไม่ไกล

เมื่อคุณมีอาการปวดเวลาเดิน คุณก็จะหลีกเลี่ยงการเดิน ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อไม่ค่อยได้รับการกระตุ้นให้ทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadricep muscles) เวลาขึ้น-ลงบันได คุณก็จะทรงตัวลำบาก และต้องเกาะราวบันได ดังนั้น กุญแจสำคัญของการรักษาก็คือการออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อต้นขาแข็งแรงมากขึ้น

6. ข้อเข่าผิดรูป

ถ้าคุณมีอาการนี้แสดงว่าคุณเป็นข้อเข่าเสื่อมมานานและปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รักษา โดยมีสาเหตุมาจากผิวกระดูกต้นขาและกระดูกหน้าแข้งเสียดสีกันมากจนทำให้เนื้อกระดูกบางส่วนหายไป จนทำให้ข้อเข่าโก่งงอดูผิดรูป และมีการเดินที่ผิดปกติ

Recommended Posts